Conjunction การเชื่อมประโยคภาษาอังกฤษ
Conjunction การเชื่อมประโยคภาษาอังกฤษ
เรียนแกรมม่า คำเชื่อมประโยคภาษาอังกฤษ ง่ายๆ ที่ต้องรู้
คำสันธาน หรือ Conjunction เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการเรียนภาษาอังกฤษใน Parts of speech ที่หลายๆ คนยังสงสัย และติดปัญหากับการใช้ “คําเชื่อมในภาษาอังกฤษ” ไม่รู้จะใช้คำไหนดี? วันนี้ เอ็ด ดู เฟิร์สท์ จะมาอธิบายการใช้คําเชื่อมประโยคง่ายๆ ให้ลองได้นำไปฝึกใช้กัน โดยเริ่มแรกเรามารู้จักกันก่อน ว่าคําเชื่อมในภาษาอังกฤษ เรียนว่าอะไร…
Conjunction (คําสันธาน)
Conjunction คือ คำสันธาน เป็นคำเชื่อมที่ถูกนำมาใช้เชื่อมคำในประโยคภาษาอังกฤษ เพื่อให้เกิดเป็นความหมายและอ่านเข้าใจง่าย โดยได้มีการแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
- Coordinating Conjunctions
- Correlative Conjunctions
- Subordinating Conjunctions
รู้อย่างนี้แล้ว เราไปดู คำเชื่อมประโยคภาษาอังกฤษ พร้อมกันเลยค่ะ
การใช้ Conjunction คำเชื่อมประโยคภาษาอังกฤษ
1. Coordinating Conjunctions
เป็นคำสันธานที่ใช้เชื่อมคำ หรือสองประโยคเข้าด้วยกัน โดยทั้ง 2 ประโยค ที่ถูกเชื่อมกันนั้นจะต้องมีความสำคัญเท่ากันหรือมีความหมายไปในทางเดียวกัน คำที่ถูกนำมาใช้ในการเชื่อมประโยค ได้แก่ and, yet, but, for, so, nor, neither, or
การใช้ Coordinating Conjunctions
And แปลว่า และ
เป็นการเชื่อมประโยคภาษาอังกฤษ ที่ไปในแนวเดียวกัน
ตัวอย่าง
I love you and you love me too.
ฉันรักเธอและเธอก็รักฉัน
Yet, But แปลว่า แต่
เป็นคำเชื่อมประโยคภาษาอังกฤษ ที่ขัดแย้งกัน
ตัวอย่าง
My brother worked hard but he did not succeed.
พี่ชายของฉันทำงานหนัก แต่เขาก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ
For แปลว่า เพราะว่า
เป็นคำเชื่อมประโยคภาษาอังกฤษ เป็นเหตุเป็นผลกัน โดย for จะแสดงเหตุ *for จะนำหน้าประโยคที่เป็นเหตุ
ตัวอย่าง
He went in, for the door was open.
เขาเข้าไป เพราะประตูเปิดอยู่
So แปลว่า ดังนั้น
เป็นการเชื่อมประโยคภาษาอังกฤษ ที่เป็นเหตุเป็นผลกัน
ตัวอย่าง
The door was open so he went in.
ประตูเปิดอยู่ ดังนั้นเข้าจึงเข้าไป
Or แปลว่า หรือ
คําเชื่อมในภาษาอังกฤษ ที่แสดงทางเลือก
ตัวอย่าง
She wants to watch TV or (to) listen to some music.
เธอไปดูทีวี หรือไปฟังเพลง
Nor, neither แปลว่า ไม่ทั้งสอง
คําเชื่อมในภาษาอังกฤษ ที่เป็นไปในเชิงปฏิเสธทั้งคู่
ตัวอย่าง
He nor I was there.
เขาและฉัน ไม่ได้อยู่ที่นี่
2. Correlative Conjunctions
เป็นคําสันธานภาษาอังกฤษ เชื่อมประโยคที่ต้องใช้คู่กันเสมอ โดยจะทำหน้าที่คล้าย ๆ กับ Coordinating Conjunctions คือใช้ในการเชื่อมประโยคที่มีความสำคัญเท่ากัน สำหรับคำที่ถูกนำมาใช้ในการเชื่อมประโยคภาษาอังกฤษ ได้แก่ not only…..but also, either…..or, as…..as, so as to, both … and,
การใช้ Correlative Conjunctions
not only…..but also แปลว่า ไม่เท่านั้น…แต่อีกด้วย
ตัวอย่าง
Man needs not only food but also shelter.
มนุษย์ไม่เพียงแต่ต้องการอาหารเท่านั้นยังต้องการที่พักอาศัยอีกด้วย
either…..or แปลว่า ไม่…หรือ / ก็
ตัวอย่าง
You can either sleep or eat.
คุณไม่นอนหลับก็กิน
as…..as แปลว่า เป็นการใช้เชื่อมประโยคที่แสดงอะไรที่เท่ากัน
ตัวอย่าง
She runs as fast as I do.
เธอวิ่งเร็วเท่าฉัน (นำคำที่เราต้องการเปรียบเทียบใส่ไปในระหว่าง as กับ as จากตัวอย่างใส่คำว่า fast เป็นการเปรียบเทียบความเร็ว)
so as to แปลว่า เพื่อที่จะ
ตัวอย่าง
I study hard so as to pass the exam.
ฉันเรียนหนัก เพื่อที่จะ ได้สอบผ่าน (to ตามด้วยกริยาช่องที่ 1 ไม่เติม s)
both … and แปลว่า ทั้ง…และ
ตัวอย่าง
I enjoy both singing and dancing.
ฉันมีความสุขกับการร้องเพลงและการเต้น
3. Subordinating Conjunctions
เป็นคำสันธานที่ใช้ในการเชื่อมประโยคภาษาอังกฤษ ใจความรองให้เข้ากับประโยคใจความหลัก สำหรับคำที่นำมาใช้ในการเชื่อม ได้แก่ after, because, if, although, before, since, that, unless, until, when, as soon as
การใช้ Subordinating Conjunctions
after แปลว่า หลังจาก
ตัวอย่าง
The girl cried after the boy left.
เด็กหญิงร้องไห้ หลังจากเด็กชายจากไป
because แปลว่า เพราะว่า
ตัวอย่าง
The boy was absent because he was ill.
เด็กชายขาดเรียน เพราะว่าเขาป่วย
if แปลว่า ถ้าหาก
ตัวอย่าง
Stay indoors if it rains.
อยู่ในร่ม ถ้าหากฝนตก
although แปลว่า ถึงแม้ว่า
ตัวอย่าง
Although it was cold, I went swimming.
ถึงแม้ว่า จะหนาวแต่ฉันก็จะไปว่ายน้ำ
before แปลว่า ก่อน
ตัวอย่าง
Clean the room before I go.
ทำความสะอาดห้อง ก่อนที่ฉันจะไป
since แปลว่า ตั้งแต่
ตัวอย่าง
He has been busy since he came.
เขายุ่ง ตั้งแต่เขามา
that แปลว่า เพราะนั่น
ตัวอย่าง
Hold it up so that everyone can see it.
ชูมันขึ้น เพราะนั่นจะทำให้ทุกคนมองเห็นมัน
unless แปลว่า เว้นแต่
ตัวอย่าง
I’ll be there at nine, unless the train is late.
ฉันจะอยู่ที่นั้นตอนเก้าโมง เว้นแต่รถไฟจะมาสาย
until แปลว่า จนกระทั่ง
ตัวอย่าง
They did not come until the meeting was half over.
พวกเค้าไม่มา จนกระทั่งการประชุมผ่านไปเกินกว่าครึ่ง
when แปลว่า ในขณะที่
ตัวอย่าง
He is impatient when he is kept waiting.
เขาจะหงุดหงิด ในขณะที่เขาต้องรอ
as soon as แปลว่า ทันทีที่
ตัวอย่าง
I’ll leave for the funeral as soon as the meeting ends.
ฉันจะออกจากที่นี่เพื่อไปงานศพ ทันทีที่ประชุมเสร็จ
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ หลักการใช้คําสันธานอังกฤษ Conjunction แบบเข้าใจง่าย ของเรา เอ็ด ดู เฟิร์สท์ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ ช่วยให้ทุกคนฝึกฝนและเข้าใจภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น อย่าลืมแชร์ความรู้ภาษาอังกฤษนี้ไปให้เพื่อนๆ ด้วยน๊า หากชอบบทความของเรา โหวต 5 ดาว ข้างล่างนี้ให้กำลังใจด้วยน๊า แล้วพบกับบทความเรียนภาษาอังกฤษ กับ เอ็ด ดู เฟิร์สท์ ได้ใหม่ บทความหน้าจ้า Bye.
เรียน Grammar ภาษาอังกฤษ ที่ไหนดี?
สอนแกรมม่า กลุ่มเล็ก / ตัวต่อตัว รับรองผล
“สอนแกรมม่าพื้นฐานภาษาอังกฤษ พูด ฟัง อ่าน เขียน เก่งเร็ว รับรองผล”
หลักสูตรคอร์สเรียนแกรมม่า Grammar (ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ) เสริมสร้างทักษะทั้ง 4 ด้าน พูด ฟัง อ่าน เขียน เพื่อการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างมั่นใจ และสามารถนำไปพัฒนาต่อในภาษาอังกฤษระดับสูง เรียนภาษาอังกฤษกลุ่มเล็ก สอนสด โดยอาจารย์เจ้าของภาษาคุณภาพ รับรองผลการเรียน พร้อมเรียนทบทวนฟรี ! ลงชื่อเพื่อขอคำแนะนำการเรียนแกรมม่า
ชอบบทความเรียนภาษาอังกฤษของเรา
ให้คะแนน 5 ดาวเลยจ้า