กรอกใบสมัครงานภาษาอังกฤษ เขียนอย่างไร? ให้ถูกต้อง
ใบสมัครงานภาษาอังกฤษ เขียนอย่างไรให้ถูกต้อง!
ขั้นตอนการกรอกใบสมัครงานภาษาอังกฤษ (Application Form)
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ วันนี้มาเรียนภาษาอังกฤษกับแอดมิน เอ็ด ดู เฟิร์สท์ กันต่อนะคะ ช่วงนี้เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบจากเชื้อโรคโควิทกันหมด รวมถึงประเทศไทยด้วย สถานประกอบการบางแห่งจึงจำเป็นที่จะต้องลดค่าใช้จ่าย ด้วยการลดสวัสดิการบ้างละ ลดเงินเดือน หรืออาจเลวร้ายถึงขั้นปลดพนักงาน ยังไงแอดมินก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกันนะคะ
และในช่วงนี้หลายๆ คน อาจกำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ แอดมินเลยนำวิธีการกรอกใบสมัครงานภาษาอังกฤษ มาให้เพื่อนๆ ได้รู้คำถามที่จะเจอในใบสมัครงาน ก่อนไปสมัครงานจริงๆ คำถามใบสมัครงานภาษาอังกฤษนั้น จะมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง เราไปดูพร้อมกันเลยจ้า
ใบสมัครงานภาษาอังกฤษ
วิธีกรอกใบสมัครงานภาษาอังกฤษ แบ่งตามหัวข้อดังต่อไปนี้
ประวัติส่วนตัว (Personal Details)
เริ่มต้นการเขียนชื่อ – นามสกุล
- เขียนด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งชื่อ (Name) และนามสกุล (Last Name / Surname โดยใส่คำนำหน้าชื่อ เช่น Mr. , Mrs. , Miss. , Ms.
การเขียนที่อยู่
- สามารถเขียนทับศัพท์ได้เลย การเขียนที่อยู่ในบางครั้งจะมีช่องสำหรับกรอก 2 ช่องคือ
1 . Home Address / Present Residence(ที่อยู่บ้าน) หรืออาจใช้ Permanent Address – คือที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
2. Mailing Address หมายถึง ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ทางไปรษณีย์ หากที่อยู่ที่เดียวกันกับในทะเบียนบ้าน ผู้สมัครชเขียนข้อความว่า As above หรือ Same as above หมายถึง ที่อยู่เหมือนกับสถานที่อยู่ข้างต้น
สถานภาพทางการสมรส (Marital Status) และข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ (Personal Data)
ผู้สมัครต้องกาเครื่องหมายถูกลงหน้าช่องที่เว้นไว้
ตัวอย่าง
- Single (โสด)
- Married (แต่งงานแล้ว)
- Widowed (เป็นหม้าย)
- Married with no children (แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีบุตร)
- Divorced (หย่า) Separated (แยกทางกัน)
หากคุณแต่งงานแล้ว จะต้องกรอกข้อมูล ต่อไปนี้
- Marriage Cert. No ……………………………….. (หมายเลขใบทะเบียนสมรส)
- Issued at …………………………………………. (ออกให้ที่อำเภอ หรือเขต)
- Dated Issued ……………………………… (วัน เดือน ปีที่ออกใบทะเบียนสมรส)
- Spouse ………………………………………… (ชื่อคู่สมรส)
ประวัติส่วนตัวทั่วไป ที่ถามในใบสมัครงาน
คำถามส่วนตัวทั่วไป ที่ถามในใบสมัครงาน มีดังนี้
- Birthdate (วัน เดือน ปีเกิด)
- Birthplace / Nataive Place (สถานที่เกิด) เขียนชื่อจังหวัดที่เกิด
- ID Card No. (เลขประจำตัวบัตรประชาชน)
- Issued at (สถานที่ออกบัตร)
- Date Issued / Dated (วันที่ออกบัตร)
- Expiry date / Valid Until (วันที่บัตรหมดอายุ)
- Religion (ศาสนา) เช่น Buddhism / Islam / Catholic / Protestant
- Taxpayer’s No. (หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี)
- Social Security No. (เลขประจำตัวบัตรประกันสังคม)
คำถามเกี่ยวกับสถานภาพทางการทหาร (Military Status) มี 3 สถานภาพ คือ
- Serving หมายถึง การอยู่ในระหว่างรับราชการทหาร เช่น กำลังทหารเกณฑ์
- Completed หมายถึง ผ่านการเกณฑ์ทหารมาแล้ว
- Exempted หมายถึง ได้รับการยกเว้น / ในบางครั้งเราต้องบอกเหตุผลของการได้รับการยกเว้นว่าเป็นเพราะอะไร (With reason) สามารถบอกได้หลายวิธี เช่น
- Finished Reserved Officers’ Training Corps Course (R.O.T.C.) (สำเร็จหลักสูตรรักษาดินแดน) หรือจะใช้ว่า
- Finished Military Service Training of Territorial Defence Course (สำเร็จหลักสูตรรักษาดินแดน
- Reserved Status หรือ Reservist (ทหารกองหนุน)
- Registered Status หรือ Registrant (ทหารกองเกิน)
- Exempted through Military Drawing Ballot (ผ่านการเกณฑ์ทหาร เพราะจับฉลากได้ใบดำ)
- Exempted by Being Undersize (เพราะร่างกายไม่ได้สัดส่วน)”>by physical disability (เพราะจุดบกพร่องของร่างกาย)by being a student (เพราะเป็นนักศึกษา)
คำถามเกี่ยวกับสุขภาพ (Health Conditions)
ส่วนใหญ่จะถามถึงสุขภาพและโรคประจำตัวหรือการได้รับอุบัติเหตุว่าเป็นอย่างไร คำศัพท์ที่ถามเกี่ยวกับโรคภัย ได้แก่
- Physical disabilities or defects – ข้อบกพร่องทางร่างกาย
- Handicap – ความพิการ
- Chronic disease – โรคติดต่อ
- Serious mental illness – การเจ็บป่วยทางด้านจิต
- Serious physical illness – การเจ็บป่วยทางด้านร่างกาย
- Colour blindness – โรคตาบอดสี
ช่องเกี่ยวกับสุขภาพเรามักจะตอบว่า ไม่เคยเป็นโรค หรืออาการเจ็บป่วยเพราะฉะนั้นเราจึงไม่ตอบโดยวิธีเขียนว่า N/A (Not Applicable) หมายถึง ไม่กรอกข้อความหรือไม่มีข้อมูล
คำถามเกี่ยวกับครอบครัว (Family Details)
กรอกใบสมัครงานภาษาอังกฤษ คำถามเกี่ยวกับครอบครัว ในใบสมัครจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับ ชื่อบิดา-มารดา พี่-น้อง และจุดที่สำคัญคือ อาชีพของแต่ละคน คำศัพท์ที่ใช้กรอกในช่องอาชีพ มีดังนี้
- Civil Servant (Government Official) ข้าราชการพลเรือน
- Retired Government Official ข้าราชการบำนาญ
- Officer รับราชการ (ทหาร – ยศร้อยตรีขึ้นไป)
- Sub Lieutenant ร้อยตรี (Sub. Lt.)
- Lieutenant ร้อยโท (Lt.)
- Army Captain ร้อยเอก (Army Capt.)
- Soldier รับราชการ (ทหาร – ยศต่ำกว่าร้อยตรี)
- Sergeant Major First Class จ่านายสิบเอก (จ.ส.อ.)
- Sergeant Major Second Class จ่าสิบโท (จ.ส.ท. )
- Sergeant Major Third Class จ่านายสิบตรี (จ.ส.ต.)
- Sergeant สิบเอก (ส.อ.)
- Self-Employed หรือ Own Business ทำงานส่วนตัว
- State Enterprise Employee พนักงานรัฐวิสาหกิจ
- Employee ลูกจ้าง
- Trader ค้าขาย
เพื่อนๆ คงจะตอบคำถาม ใบสมัครงานภาษาอังกฤษ ได้อย่างถูกต้องแล้ว แอดมินขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ที่กำลังหางานใหม่ทุกท่านนะคะ ขอให้ได้งานใหม่และเจองานที่ถูกใจด้วยค่ะ แล้วอย่าลืมติดตามบทความสอนภาษาอังกฤษของเราใยบทความถัดไปด้วยจ้า หากเพื่อนๆ ชอบบทความเรียนภาษาอังกฤษนี้ โหวตดาวเพื่อเป็นกำลังใจให้แอดมินด้วยน๊าา
อยากเขียนภาษาอังกฤษเก่งๆ เรียนที่ไหนดี?
การเขียนภาษาอังกฤษเหมือนเป็นเรื่องที่ยาก สำหรับคนไทย เพราะส่วนใหญ่เราไม่รู้หลักการเขียนที่ถูกต้องอย่างแท้จริง
เอ็ด ดู เฟิร์สท์ จะช่วยให้คุณเขียนภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรมชาติ ด้วยคอร์สเรียนการเขียนภาษาอังกฤษ ที่สอนโดยครูผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนโดยเฉพาะ คุณจะสามารถเขียนเรียบเรียงประโยคได้อย่างถูกต้องสละสลวย และในหลักสูตรใหม่ คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ที่จะช่วยให้คุณเรียนภาษาอังกฤษ สะดวกมากขึ้นจริงๆ ค่ะ หากคุณสนใจ ลงชื่อขอรับคำปรึกษาฟรี!
Tags
ชอบบทความเรียนภาษาอังกฤษของเรา
ให้คะแนน 5 ดาวเลยจ้า
ติดตามความรู้ภาษาอังกฤษ สถาบัน เอ็ด ดู เฟิร์สท์
บทความ เรียนภาษาอังกฤษเพื่อการทำงาน เพิ่มเติม :
› 9 วิธีเก่งภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงาน
› พรีเซนต์งานภาษาอังกฤษ ให้ปัง!
› เรียนภาษาอังกฤษที่ไหนดี สำหรับวัยทำงาน
› ประโยคภาษาอังกฤษในการทํางาน
› ทำไมวัยทำงานต้องสอบ TOEIC ?
› เคล็ดลับการใช้ภาษาอังกฤษทำงานอย่างได้ผล
› การกรอกใบสมัครงานภาษาอังกฤษ
› คอร์สเรียนภาษาอังกฤษธุรกิจ
› หลักสูตรอบรมภาษาอังกฤษพนักงานสำหรับบริษัท