เลือกหน้า

ฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษอย่างไร ให้ถูกต้อง?

เรียนภาษาอังกฤษ ฝึกทักษะการพูดออกเสียงภาษาอังกฤษ

เรียนภาษาอังกฤษ ฝึกทักษะการพูดออกเสียงภาษาอังกฤษ

เคล็บลับของการเรียนพูดภาษาอังกฤษ คือการเลียนแบบจากเจ้าของภาษาจริงๆ ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับคนไทย เพราะตั้งแต่เราจำความได้ พวกเราก็คุ้นเคยกับการพูดออกเสียงในภาษาไทยมาตั้งแต่แรก

แล้วเราจะพูดอย่างไร? ให้ชาวต่างชาติเข้าใจ การออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษไม่ถูกต้อง จัดว่าเป็นปัญหาอันดับต้นๆ ที่ทำให้การสื่อสารคาดเคลื่อนและอาจเกิดความเข้าใจผิดได้ เหมือนที่พวกเราเคยได้ยินคำว่า “พูดผิดชีวิตเปลี่ยน”

เอ็ด ดู เฟิร์สท์ มีเคล็ดลับเรียนภาษาอังกฤษ “การฝึกออกเสียง” มาให้เพื่อนๆ หัดออกเสียงภาษาอังกฤษ พร้อมพูดคุยกับชาวต่างชาติแบบไม่ต้องอายเลยจ้า

ฝึกการออกเสียงภาษาอังกฤษ

เรียนรู้การพูดออกเสียงภาษาอังกฤษ ทั้ง 27 เสียง เริ่มกันเลย!

สอนออกเสียงภาษาอังกฤษ ทั้ง 27 เสียง เพื่อการฝึกออกเสียงอย่างถูกต้อง

1. คำที่ลงท้ายด้วย -ous ออกเสียงว่า “เอิ่ส”

-ous ปกติเรามักออกเสียงว่า “อัส” ให้เปลี่ยนเป็น “เอิ่ส” ออกเสียงต่ำลงมาอีกหนึ่งสเต็ป
ตัวอย่าง

  • Dangerous จากเดิม แดน-เจอ-รัส เปลี่ยนเป็น แด๊น-เจอะ-เหริส
  • Famous จากเดิม เฟ-มัส เปลี่ยนเป็น เฟ๊-เหมิ่ส (พยางค์สอง ออกเสียงต่ำลงมาหนึ่งสเต็ป)

2. คำที่ลงท้ายด้วย -ing ออกเสียงว่า “อิ่ง”

-ing ส่วนใหญ่คำกริยา เรามักจะออกเสียงว่า “อิ้ง” ให้ลดเสียงลงมาอีกหนึ่งสเต็ป เป็น “อิ่ง”
ตัวอย่าง

  • Going เดิมออกเสียง โก-อิ้ง ไม่เอาแล้ว! ให้เปลี่ยนเป็น โก๊-อิ่ง
  • Reading จากเดิม รี๊ด-ดิ้ง เปลี่ยนเป็น รี๊ด-ดิ่ง
  • Comimg จากเดิม คัม-มิ้ง พูดออกเสียงสำเนียงเลิศๆ ว่า คั๊ม-หมิ่ง

3. คำที่ลงท้ายด้วย -ture ออกเสียงว่า “เฉ่อร์”

-ture ออกเสียงผิดกันบ่อยๆ ปกติคนไทยจะออกเสียงว่า “เจ้อร์” ออกเสียงให้ถูกต้องเป็น “เฉ่อร์”
ตัวอย่าง

  • Picture จากเดิม พิค-เจ้อร์ ปลี่ยนการออกเสียงเป็น พิค-เฉ่อร์
  • Future ไม่ออกเสียงว่า ฟิว-เจ้อร์ เปลี่ยนการออกเสียงเก๋ๆ เป็น ฟิว-เฉ่อร์ เยี่ยมไปเลยจ้า!!!

4. คำที่ลงท้ายด้วย -ly หรือ -ry ออกเสียงว่า “หลี่”

-ry ส่วนใหญ่เราจะออกเสียงว่า “ลี่” (จริงๆ ตัว R กับ L ถ้าให้ออกเสียงให้ถูกต้อง ต้องว่ากันยาว) ให้เปลี่ยนเป็น “หลี่” แทน
ตัวอย่าง

  • Ferry เดิมออกเสียง เฟอ-รี่ เปลี่ยนเป็น เฟ-หรี่ รับรองเหมือนฝรั่งเด๊ะ!

5. คำที่ลงท้ายด้วย -tion ออกเสียงว่า “เฉิ่น”

-tion ที่เราออกเสียงว่า “ชั่น” ให้เปลี่ยนเป็น “เฉิ่น” แทน
ตัวอย่าง

  • Position เดิมคือ โพ-ซิ-ชั่น เปลี่ยนการออกเสียงเป็น โพ-ซิ-เฉิ่น
  • Partition เดิม พาร์-ทิ-ชั่น เปลี่ยนเป็น พาร์-ทิ-เฉิ่น
  • Reputationw ไม่ออกเสียง เรพ-พิว-เท-ชั่น ให้พูดออกเสียงว่า เรพ-พิว-เท-เฉิ่น
ฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษ สําเนียงอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษ ให้ออกเสียงได้ถูกต้อง

6. คำที่ลงท้ายด้วย -ile ออกเสียงว่า “อายล์-เอิว์ล”

-ile ปกติเราจะออกเสียงแค่พยางค์เดียว “อายล์” แต่ถ้าจะออกให้สำเนียงเป๊ะเว่อร์ ต้องออกเสียง 2 พยางค์ว่า “อายล์-เอิว์ล” ใครได้ยินต้องร้องว๊าวว!!
ตัวอย่าง

  • Smile เดิมออกเสียง สะ-มายล์ เปลี่ยนเป็น “สะ-มายล์-เอิว์ลล” สวยๆ ไปเลยจ้า

7. คำที่ลงท้ายด้วย -er หรือ -or ออกเสียงว่า “เอ่อร์”

-er ที่เรามักออกเสียงกัน “เอ้อ” เปลี่ยนละ ลดคีย์ลงหนึ่งสเต็ป ให้ออกเสียงว่า “เอ่อร์” แทน
ตัวอย่าง

  • Farmer เดิมออกเสียง ฟาร๋ม-เม้อ เปลี่ยนลดลงนิดนึงเป็น ฟาร๋ม-เหม่อร์
  • Tutor ถ้าสำเนียงไทยจัดๆ ออกเสียง ติว-เต้อร์ ลองเปลี่ยนให้ดีขึ้นมาอีกนิด ทิว-เท้อร์ หรือเอาให้สำเนียงเป๊ะเว่อร์ให้ออกเสียง ทิว-เถ่อร์ ( ลดคีย์พยางค์หลังลงหนึ่งสเต็ป)

8. คำที่ลงท้ายด้วย -ment ออกเสียงว่า “เหม่นท์”

-ment จากเดิมที่เราออกเสียงว่า “เม้นท์” ให้เราลดเสียงต่ำลงเป็น “เหม่นท์” แทน
ตัวอย่าง

  • Comment จากเดิมเราอ่านว่า คอม-เม้นท์ ไม่เอาแล้วจ้า ให้ออกเสียงเป็น “ค่อม-เหม่นท์”เก๋กว่าเยอะ

9. คำที่ลงท้ายด้วย -our ออกเสียงว่า “เอ้า-เหว่อ”

-our คนไทยมักออกเสียงผิด โดยการออกเสียงพยางค์เดียวว่า “เอาร์” จริงๆ ถ้าจะออกให้สำเนียงเป๊ะนั้นจะต้องออกเสียง 2 พยางค์ “เอ้า-เหว่อ”
ตัวอย่าง

  • Sour เดิม เซาร์ เปลี่ยนเป็น เซ้า-เหว่อ
  • Hour เจอบ่อยๆ เลย เปลี่ยนจาก เอาร์ เป็น “เอ้า-เหว่อ”

10. คำที่ลงท้ายด้วย -um ออกเสียงว่า “เอิ่ม”

ถ้าออกเสียงแบบปกติคือ “อั้ม” ซึ่งฟังพอเข้าใจ แต่ถ้าอยากให้สำเนียงเลิศแบบสุดติ่ง ต้องออกเสียงว่า “เอิ่ม”
ตัวอย่าง

  • Forum จาก ฟอ-รั่ม ออกเสียงเป็น ฟอ-เหริ่ม
  • Serum ที่เรามักออกเสียงผิดแบบหนักๆ กันว่า ซี-รั่ม จริงๆ ต้องออกเสียงว่า “เซีย-เหริ่ม”
สอนออกเสียงภาษาอังกฤษ  ออกเสียงภาษาอังกฤษ เหมือนเจ้าของภาษา

11. คำที่ลงท้ายด้วย -sion ออกเสียงว่า “เฉิ่น”

-sion เชื่อว่าคนไทยเกินล้านคนออกเสียงว่า “ชั่น” ซึ่งที่ที่ควรต้องออกเสียงว่า “เฉิ่น”
ตัวอย่าง

  • Mansion ไม่ใช่ แมน-ชั่น ต้องออกเสียงว่า แมน-เฉิ่น
  • Desicion ก็ไม่ใช่ ดี-สิ-ชั่น ต้องออกเสียงว่า ดิ-ซิ-เฉิ่น

12. คำที่ลงท้ายด้วย -ral ออกเสียงว่า “เริล”

-ral เรามักออกเสียงกันว่า “รัล” (เร่า) แต่จริงๆควรออกเสียงว่า “เริล”
ตัวอย่าง

  • น้ำแร่ Mineral ไม่เอา มิ-เนอ-รัล ละให้เปลี่ยนเป็น มิ-เหน่อ-เริล

13. คำที่ลงท้ายด้วย -ire ออกเสียงว่า “อาย-เย้อร์”

-ire ที่เรามักออกเสียงกันพยางค์เดียว “อาย” ให้ออกเสียงเป็น 2 พยางค์ “อาย-เย้อร์”
ตัวอย่าง

  • Fire เดิมๆ เคยออกเสียง ฟาย ให้เปลี่ยนเป็น ฟาย-เย้อร์
  • Tire จากเดิม ทาย เปลี่ยนเป็น ทาย-เย้อร์ สำเนียงเป๊ะมาก!

14. คำที่ลงท้ายด้วย -el ออกเสียงว่า “โอ็ล”

-el คำนี้คนไทยออกเสียงผิดกันเยอะมาก เพราะชอบออกเสียงว่า “เอล”
ตัวอย่าง

  • Model ออกเสียง โม-เดล ฝรั่งฟังแทบไม่ออกบอกเลย จริงๆ คำที่ลงท้ายว่า -el ไม่ใช่ “เอล” แต่เป็น “โอ็ล” ต่างหาก Model ออกเสียงว่า เม๊าะ-โด็ล
  • Level ไม่ใช่ เล-เวล ต้องออกเสียงว่า เล๊ะ-โฝว็ล

15. คำที่ลงท้ายด้วย -ant ออกเสียงว่า “เอิ่นท์”

-ant (เฉพาะคำสองพยางค์ขึ้นไป) เดิมปกติเราออกเสียงว่า “แอ๊นท์” ให้เปลี่ยนเป็น “เอิ่นท์”
ตัวอย่าง

  • Important จากเดิม อิม-พอ-แท๊นท์ ให้เปลี่ยนเป็น อิม-เพาะ-เทิ่นท์
  • Mutant เดิมออกเสียง มิว-แท๊นท์ ก็เปลี่ยนเป็น มิว-เทิ่นท์ หรือคำยาวๆ อย่าง
  • Participant พา-ทิ-ซิ-แพ๊นท์ ก็แค่เปลี่ยนพยางค์สุดท้ายเป็น พา-ทิ-ซิ-เพิ่นท์
สอนอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ เรียนการอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษ

16. คำที่ลงท้ายด้วย -ger ออกเสียงว่า “เจ่อะ”

ที่เรามักใส่กันสุดคำว่า “เจ้อร์” ให้เปลี่ยนเป็นแค่ “เจ่อะ” พอค่ะ
ตัวอย่าง

  • Manager หลายคนอ่านกันว่า แม-เน-เจ้อร์ แต่ที่ถูกต้องคือ มะ-หนิด-เจ่อะ
  • Ledger ไม่ใช่ เล็ด-เจ้อร์ แค่ เล็ด-เจ่อะ พอแล้ววววว ..

17. คำที่ลงท้ายด้วย -om ออกเสียงว่า “เดิ่ม”

-om เราออกเสียงกันแบบไทยสไตล์ว่า “อ้อม” แต่จริงๆ แค่ “เอิ่ม” ก็พอ
ตัวอย่าง

  • Condom มิใช่ คอน-ด้อม ออกเสียงแบบฝรั่งคือ ค๊อน-เดิ่ม
  • Random เปลี่ยนจาก แรน-ด้อม เป็น แรน-เดิ่ม
  • Bottom เดิมๆ คือ บ๊อต-ท่อม ต้องออกเสียงเป็น บ๊อต-เถิ่ม สำเนียงดีมากเลยนะ รู้ยัง!

18. คำที่ลงท้ายด้วย -ton (2 พยางค์ขึ้นไป) ออกเสียงว่า “เทิ่น”

-ton ปกติชอบออกเสียงกันแบบไทยๆ ว่า “ต้อน” จริงๆ ออกเสียงแบบฝรั่ง ต้องออกว่า “เทิ่น” ต่างหาก!
ตัวอย่าง

  • Cotton Bud เราออกเสียงกันว่า คัท-ตั้น-บัด จริงๆ ต้อง “คัท-เทิ่น-บัด”
  • Carton ก็ไม่ใช่ คาร์-ต้อน เปลี่ยนเป็น คาร์-เทิ่น

19. คำที่ลงท้ายด้วย -ure (บางคำ) ออกเสียงว่า -ะ เยอร์

-ure หลายๆ คำ เรามักเจอบ่อยๆ เช่น Pure, Cure, Secure ไรงี้ คำลงท้ายด้วย -ure เราชอบออกเสียงกันว่า “เอียว”

ตัวอย่าง

  • Pure ออกเสียงว่า เพียว ซึ่งไม่ถูก (แต่ก็ไม่มาก ฝรั่งพอฟังออก) แต่ถ้าจะให้แบบถูกต้องก็คือ “พเยอร์” อ่านว่า พะ-เยอร์ ต้องควบคุมเสียงหรือออกเสียงเร็วๆ ให้เหมือนเป็นพยางค์เดียว
  • Cure ก็ไม่ใช่ เคียว ต้องเป็น คเยอร์ .. โอ้ว! สำเนียงไฮโซเว่อร์

20. คำที่ลงท้ายด้วย -us ออกเสียงว่า “เอิ่ส”

-us โดยปกติเราชอบออกเสียงว่า “อัส” ไม่ก็ “อุส” แต่ถ้าจะให้เป็นสำเนียงฝรั่งจริงๆ ต้องออกเสียงว่า “เอิ่ส”
ตัวอย่าง

  • Status เดิมๆ ออกเสียงว่า สะ-เต-ตัส เปลี่ยนเป็น สะ-เต-เทิ่ส, ปลาหมึกยักษ์
  • Octopus เราจะไม่ออกเสียงว่า อ๊อก-โต-พุส ต่อจากนี้ให้ออกเสียงว่า อ๊อก-เถอะ-เผิส

21. คำที่ลงท้ายด้วย -land ออกเสียงว่า “เลิ่นด์”

-land เจอปุ๊บ ออกเสียง “แลนด์” ปั๊บ! ซึ่งฝรั่งจะไม่ออกเสียงงี้ แต่เขาจะออกเสียงว่า “เลิ่นด์”
ตัวอย่าง

  • Scotland ออกเสียงที่ถูกคือ สก๊อต-เลิ่นด์
  • New Zealand ก็ออกเสียง นิว-ซี๊-เลิ่นด์
    ยกเว้นคำว่า Thailand กับ Foodland นะจ๊ะ

22. คำที่ลงท้ายด้วย -en ออกเสียงว่า “อึ่น”

-en เราชอบออกเสียงกันว่า “เอ้น” จริงๆ ต้องออกเสียงว่า “อึ่น”
ตัวอย่าง

  • Garden เดิมๆ คือ การ์-เด้น แต่ถ้าจะเอาให้ฝรั่งเก็ทก็ต้องออกเสียงว่า การ์-ดึ่น
  • Kitten ลูกแมว ก็ไม่เอา คิท-เท่น ที่ดีงามต้องเป็น คิท-ทึ่น
  • Kitchen ก็ไม่ คิท-เช่น ละต้องเป็น คิท-ฉึ่น

23. คำที่ลงท้ายด้วย -ard ออกเสียงว่า “เอิด”

-ard (ตั้งแต่ 2พยางค์ขึ้นไป) เรามักออกเสียง “อาร์ด” กัน ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่! ฝรั่งออกเสียงกันว่า “เอิด”
ตัวอย่าง

  • Wizard ไม่ใช่ วิ-สาร์ด ที่ถูกต้องคือ วิ-เสิด, จิ้งจก
  • Lizard ก็ไม่ใช่ ลิ-สาร์ด ออกเสียงเป็น ลิ-เสิด แม้กระทั่ง
  • Standard จากเดิม สะ-แตน-ดาร์ด จริงๆ คือ สะ-แตน-เดิด

24. คำที่ลงท้ายด้วย -le ออกเสียงว่า “โอ็ล”

-le ที่เราออกเสียงกันแบบคุ้นปากตั้งแต่เด็กๆว่า “เอิ้ล” ซี่งจริงๆต้องพูดว่า “โอ็ล” แบบเสียงสั้นๆ
ตัวอย่าง

  • Table ใครก็รุ็ว่าอ่านว่า เท-เบิ้ล แต่ที่ถูกก็คือ เท-โบ็ล
  • Double เปลี่ยนจาก ดับ-เบิ้ล เป็น ดึ่บ-โบ็ล
  • สายเคเบิ้ล Cable ก็ให้ออกเสียงใหม่เป็น เค๊-โบ็ล

25. คำที่ลงท้ายด้วย -ley ออกเสียงว่า “ลี่”

-ley เราชอบออกเสียง “เล่” แต่ที่ถูกต้องคือ “ลี่”
ตัวอย่าง

  • รถเข็น Trolley ก็ไม่ใช่ โทรล-เล่ ที่ถูกคือ ทรอ-หลี่,
  • เพลง Medley ก็ไม่ใช่ เมดเล่ ต้องออกเสียงว่า เม็ด-ลี่ พยางค์แรกออกเสียงสั้นด้วยนะ

26. คำที่ลงท้ายด้วย -ian ออกเสียงว่า เฉิ่น

-ian ที่เรามักเจอในความหมายว่าเป็น “นัก” ต่างๆ แล้วชอบออกเสียงงว่า เชี่ยน ให้เปลี่ยนเป็น “เฉิ่น” จะสุดยอดกว่า!
ตัวอย่าง

  • นักมายากล Magician ไม่ เม-จิก-เชี่ยน ละ เปลี่ยนเป็น เม๊-จิ-เฉิ่น
  • นักดนตรี Musician มิว-สิค-เชี่ยน เปลี่ยนเป็น มิว-ซิ-เฉิ่น

27. คำที่ลงท้ายด้วย -oil ออกเสียงว่า “ออย-เยิ่ล”

-oil ดูเหมือนไม่มีอะไร เพราะเราอ่าน “ออย” กันอยู่แล้ว แต่ที่จริงต้องออกเสียง 2 พยางค์ “ออย-เยิ่ล”

ตัวอย่าง

  • น้ำมัน Oil ออกเสียงว่า ออย-เยิ่ล
  • soil ดิน ไม่แค่ ซอย แต่ต้อง ซอย-เยิ่ล
  • ต้มน้ำจนเดิอด boil ก็ต้อง บอย-เยิ่ล

ข้อมูลอ้างอิง Mind English

ถ้าเพื่อนๆ ต้องการฝึกฝนภาษาอังกฤษมากกว่านี้ ติดตามบทความเรียนภาษาอังกฤษของ เอ็ด ดู เฟิร์สท์ ในเรื่องต่อไปได้เลยจ้า หากชอบบทความเรียนภาษาอังกฤษของเรา กดโหวต 5 ดาวข้างล่าง เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเราได้เลย แล้วอย่าลืมแชร์ความรู้ไปให้เพื่อนๆ ได้ฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษกัน ด้วยน๊าาา

อยากพูดภาษาอังกฤษ ให้เป๊ะเว่อร์

เรียนภาษาอังกฤษ ที่ไหนดี?

เอ็ด ดู เฟิร์สท์ มีคอร์สเรียนที่จะช่วยให้คุณ ออกเสียงภาษาอังกฤษได้เหมือนเจ้าของภาษาแท้ๆ!
คอร์สเรียนการออกเสียงภาษาอังกฤษ ช่วยให้คุณหมดกังวล ปัญหาเรื่องออกเสียงภาษาอังกฤษไม่ถูกต้อง เพราะคุณจะได้ฝึกออกเสียงกับ Native Teacher แท้! ช่วยให้คุณกล้าออกเสียงภาษาอังกฤษอย่างมั่นใจ

คุณจะได้หัดออกเสียงภาษาอังกฤษ อาทิ การเน้นเสียง (stress) , เสียงสัมผัส (rhythm), การออกเสียงสูงต่ำ(intonation) ฝึกฝนการออกเสียงพยัญชนะ (consonant sounds) และเสียงสระ (vowel sounds)

หรือหากคุณอยากพูดภาษาอังกฤษคล่อง แต่เวลามีน้อย ก็เลือก เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์  กับเราได้เลย

“เพิ่มความกล้า ในออกเสียงภาษาอังกฤษให้กับตนเอง” เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ ขอรับคำแนะนำด้านการเรียน

ชอบบทความเรียนภาษาอังกฤษของเรา

ให้คะแนน 5 ดาวเลยจ้า

[Total: 9 Average: 5]

ติดตามความรู้ภาษาอังกฤษ สถาบัน เอ็ด ดู เฟิร์สท์

“เรียนการออกเสียงภาษาอังกฤษ” ที่ไหนดี?

โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ เอ็ด ดู เฟิร์สท์

เรียนภาษาอังกฤษ กลุ่มเล็ก / ตัวต่อตัว สอนสด 100% โดยครู Native Teacher พร้อมรับรองผล

อยากเก่งภาษาอังกฤษ

เรียนภาษาอังกฤษ เก่งเร็ว ที่ โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ EduFirst พร้อมรับรองผล

เรียนภาษาอังกฤษ เก่งเร็ว ที่ โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ EduFirst พร้อมรับรองผล