30 สำนวนภาษาอังกฤษ คำสแลง ใช้ในชีวิตประจำวัน

30 สำนวนภาษาอังกฤษ ใช้ในชีวิตประจำวัน
“สำนวนภาษาอังกฤษ คำสแลง วลีภาษาอังกฤษที่วัยรุ่นมักชอบใช้กัน พร้อมความหมายและคำแปลภาษาไทย”
สำนวนภาษาอังกฤษ (Idioms)
สำนวนภาษาอังกฤษ ในชีวิตประจำวัน (English Phrases for Everyday Use)
สำนวนภาษาอังกฤษ คำสแลง ใช้ในชีวิตประจำวัน มีอะไรบ้างมาดูกันเลย
1. Twenty-four Seven “ตลอดเวลา หรือ ไม่มีวันหยุด”
“Twenty-four Seven” เนื่องจากหนึ่งวันมี 24 ชั่วโมง และหนึ่งอาทิตย์ก็มี 7 วัน สำนวนนี้จึงมีความหมายว่า “ตลอดเวลา ทุกๆนาทีของทุกๆวัน”
2. Get the ball rolling. “เริ่มต้น เริ่มดำเนินการ”
“Get the ball rolling” ความหมายของสำนวนภาษาอังกฤษนี้ ก็คือ เริ่มทำอะไรสักอย่าง แค่จำไว้ว่า “Let’s get the ball rolling” ความหมายเหมือนกับ Let’s start now เราเริ่มกันเถอะ
3. Take it easy. “ทำตัวสบาย ๆ”
“Take it easy” ถ้ามีคนพูดกับคุณว่า “I don’t have any plans this weekend. I think I’ll take it easy.” ความหมายของสำนวนนี้ก็คือ ทำตัวสบาย ๆ “ผ่อนคลาย” หรือ “พักผ่อน” ค่ะ สำนวนนี้ก็เข้าใจง่ายเหมือนกันค่ะ “I’m going to take it easy.” ความหมายก็คือ “I’m going to relax. ฉันจะพักผ่อนสักหน่อย”
4. Sleep on it. “คิดทบทวน พิจารณาอย่างหนัก”
“Sleep on it” ถ้ามีคนๆหนึ่งพูดว่า “I’ll sleep on it.” ความหมายของเขาก็คือ “ฉันขอใช้เวลาในการตัดสินใจสักหน่อย” เพราะฉะนั้น ถ้ามีคนพูดกับคุณว่า “I’ll get back to you tomorrow. I have to sleep on it.” ความหมายของเขาก็คือ “ฉันขอเวลาตัดสินใจสักหน่อย แล้วจะบอกคำตอบพรุ่งนี้” เพราะฉะนั้น “Sleep on it คือ ขอเวลาตัดสินใจ แล้วจะบอกคำตอบทีหลัง”
5. I’m broke. “ฉันไม่มีเงินเลย ถังแตก”
“I’m broke.” อันนี้ได้ยินบ่อยมากๆเลยค่ะ สำนวนนี้ไม่ได้หมายความว่า ในร่างกายไม่ได้มีส่วนหนึ่งส่วนใดเสียหรือใช้การไม่ได้ แต่ความหมายจริงๆ ของสำนวนนี้ ก็คือ “ฉันไม่มีเงินเลย” หรือ “ถังแตก” นั่นเองค่ะ
“I’m broke.” เท่ากับ “I have no money ฉันไม่มีเงินเลย” สำนวนนี้ใช้กันมาก และได้ยินกันบ่อยๆค่ะ
6. Sharp. “ตรง (เวลา)”
“Sharp” ใช้กับเวลา ยกตัวอย่างเช่น “The meeting is at 7 o’clock sharp!” ความหมายก็คือ “การประชุมจะเริ่มตอนเจ็ดโมงเป๊ะ” เวลามีคนใช้คำว่า “Sharp” ตามหลังเวลาพูดกับคุณ ความหมายก็คือเขาต้องการย้ำเวลานั้นๆ และบอกคุณว่า “อย่ามาสายนะ”
7. Like the back of my hand “รู้เรื่องดี คุ้นเคยดี ราวกับหลังมือของเราเอง”
“Like the back of my hand” ความหมายคือ “the back of my hand หรือ หลังมือของตัวเอง” เป็นสิ่งที่ตัวเองต้องคุ้นเคยเป็นอย่างดี คุณรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับหลังมือคุณ คุณเห็นอยู่ทุกวัน
เพราะฉะนั้นถ้าฉันพูดว่า “I know this city like the back of my hand.” ความหมายก็คือ “ฉันรู้จักเมืองนี้ดีมากๆ ฉันคุ้นเคยกับเมืองนี้” สำนวนนี้ก็ใช้กันบ่อยมาก
เราอาจปรับเปลี่ยนใช้สำนวนนี้ได้ว่า “He knows this city like the back of ‘his’ hand” ก็ได้นะคะ ความหมายก็จะยังเหมือนกัน ก็คือ “รู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งดี หรือ คุ้นเคยเป็นอย่างดี” ค่ะ
8. Give me a hand. “ช่วยฉันหน่อยได้ไหม”
“Give me a hand.” ถ้ามีคนพูดกับคุณว่า “Do you want to give me a hand?” เขาหมายความว่า “Do you want to help me?” สมมุติว่ามีคนๆ หนึ่งถือของมา แล้วเขาพูดว่า “Would you give me a hand?” เขาไม่ได้ขอมือคุณเฉยๆ นะ เขากำลังขอให้คุณช่วยเขาหน่อยค่ะ “Would you give me a hand?” คือ “Would you help me? คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม”
9. In ages. “เป็นเวลานาน”
“In ages” ยกตัวอย่างเช่นใช้ในประโยคว่า “I haven’t seen him in ages” ความหมายของ “in ages” ก็คือ “for a long time “เป็นเวลานานมาก” นั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้น “I haven’t seen him in ages” ก็เท่ากับ “I haven’t seen him for a long time ฉันไม่ได้เจอเขามานานมากแล้ว” จำไว้นะคะ “in ages” แปลว่า “เป็นเวลานานมาก”
10. Sick and tired. “ไม่ชอบ”
“Sick and tired” สำนวนนี้แปลได้ว่า “ไม่ชอบ หรือ เกลียด” ค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณพูดว่า “I’m sick and tired of doing homework.” ความหมายก็คือ “ฉันไม่อยากทำการบ้านแล้ว ฉันไม่ชอบทำการบ้านเลย”
11. Behind one’s back. “พูดลับหลัง”
“behind one’s back” แปลว่า พูดหรือกระทำโดยอีกคนหนึ่งไม่รู้ตัว หรือ พูดลับหลัง ตัวอย่างเช่น Pete loves to gossip Jay behind his back. (พีทชอบที่จะนินทาเจลับหลัง โดยเขาไม่รู้ตัว)
12. Turn one’s back on. “ไม่สนใจ, ทอดทิ้ง”
“turn one’s back on” แปลว่า ไม่สนใจ ไม่ช่วยเหลือ ทอดทิ้ง ตัวอย่างเช่น John never turn his back on his girlfriend when she needs help. (จอห์นไม่เคยไม่เคยทอดทิ้งเฉยเมยต่อแฟนสาวของเขา เมื่อเธอต้องการความช่วยเหลือ)
13. Get back at. “แก้แค้น”
“get back at” แปลว่า แก้แค้น แก้เผ็ด เอาคืน ตัวอย่างเช่น If it takes me 10 years I will get back at him. (ถึงแม้จะต้องเสียเวลาสัก 10 ปี ผมก็จะต้องแก้แค้นมัน)
14. Hold something back “ซ่อน, ไม่เปิดเผย”
“hold something back” แปลว่า ซ่อน ไม่เปิดเผย ไม่เต็มใจเปิดเผย ตัวอย่างเช่น I could tell from his nervousness that he was holding back something. (ฉันสามารถจะบอกจากอาการตื่นเต้นของเขาได้ว่า เขากำลังปิดบังอะไรบางอย่าง)
15. Be my guest. “ตามสบายเลย”
“be my guest” แปลว่า พูดหรือทำตัวตามสบาย ไม่ต้องเกรงใจกัน
16. Be oneself. “เป็นปกติธรรมดา”
“You haven’t been yourself lately. Is anything wrong?” (เธอดูเหมือนมีเรื่องไม่ค่อยสบายใจ มีอะไรรึเปล่า)
17. Be tired of. “รำคาญ, เบื่อ”
เช่น I was tired of working for other people, so now I’m self-employed. (ผมเบื่อที่เป็นลูกจ้าง ขณะนี้ได้ออกมาทำกิจการของตนเองแล้ว)
18. Beyond hope “ไม่มีโอกาสที่จะดีขึ้น”
ตัวอย่างเช่น Everyone has tired to help him with his drink problem, but I think he is beyond hope. (ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเขาได้พยายามทุกวิถีทางที่จะช่วยให้เขาพ้นจากปัญหาดื่มเหล้า แต่ฉันว่าไร้ประโยชน์)
19. Big-headed “หยิ่งยะโส”
ตัวอย่างเช่น “Here she comes! she always boasts about her success. I don’t know why she’s so big-headed.” (นี่ไงล่ะ คนที่ชอบคุยโวว่าตัวเองเก่ง ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงชอบอวดตัวเองนัก)
20. A great deal. “จำนวนมาก”
ตัวอย่างเช่น We’ve heard a great deal about you. (พวกเราได้ยินเรื่องเกี่ยวกับคุณมากมาย)
21. After all. “อย่างไรก็ตาม”
ตัวอย่างเช่น But after all, they are our children. (แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็เป็นลูกๆ ของเรานะ)
22. After one’s own heart “ได้ดังใจ, สมใจ, ถูกใจจริงๆ”
ตัวอย่างเช่น I love you, boy. You are always a child after my own heart. (พ่อรักลูกนะ ลูกเป็นลูกที่สมใจพ่อเสมอ)
23. All over the place. “ทั่วทุกที่”
“All over the place” แปลว่า ทั่วทุกที่ ทุกหนทุกแห่ง กระจัดกระจาย เกลื่อน ตัวอย่างเช่น Your books are all over the place. (หนังสือของคุณวางอยู่ทั่วไปหมด)
24. Around the corner “อยู่ใกล้ๆ”
“Around the corner” แปลว่า อยู่ใกล้ๆ อยู่ไม่ไกล ใกล้เข้ามาแล้ว ตัวอย่างเช่น The examination is right around the corner. (การสอบใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว)
25. As a matter of fact. “อันที่จริง”
“As a matter of fact” แปลว่า อันที่จริง ตามที่จริง จริงๆ แล้วตัวอย่างเช่น As a matter of fact, l don’t like them either. (อันที่จริงแล้วฉันก็ไม่ชอบพวกเขาเหมือนกัน)
26. As far as I am concerned. “ตามความเห็นของฉัน”
“As far as I am concerned” แปลว่า ตามความเห็นของฉัน ตามความคิดฉัน เท่าที่ทราบ ตัวอย่างเช่น As far as I am concerned, he should get fired. (ตามความเห็นฉันนะ เขาควรจะถูกไล่ออก)
27. Watch your mouth. “ระวังคำพูด”
“Watch your mouth” แปลว่า ระวังปาก ระวังคำพูด มีความหมายเดียวกับ Watch your tongue
28. Let the cat out of the bag. “หลุดปากเผยความลับออกมา”
ตัวอย่างเช่น “I let the cat out of the bag about their wedding plans.”
29. To feel under the weather. “ไม่สบาย ป่วย”
ตัวอย่างประโยค “I’m really feeling under the weather today; I have a terrible cold.”
30. Jack of all trades. “รู้ทุกเรื่อง แต่ไม่เก่งจริงสักอย่าง”
ตัวอย่างประโยค “A jack of all trades,master of none.” แปลว่า รู้ไปหมด แต่ไม่เก่งสักอย่าง
31. Bear with me. “ การบอกให้ใครสักคน อดทนกับคุณ”
สำนวนภาษาอังกฤษ ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
(Daily Routines Idioms and Phrases)
Crash a Party “แขกไม่ได้รับเชิญ”
Hit the Books “อ่านหนังสือสอบ”
In Touch “ติดต่อ, ไปมาหาสู่”
“I’ll be out of town this weekend, but I’ll be in touch when I get back Sunday night.”
On a Roll “ทำสำเร็จ อย่างต่อเนื่อง”
Play With Fire “ทำเรื่องเสี่ยงอันตราย”
Ring a Bell “เหมือนเคยได้ยิน”
Spin A Yarn “พูดพล่าม”
Trip the Light Fantastic “การเต้นรำ”


ได้เรียนรู้สำนวนภาษาอังกฤษเยอะขึ้นเลยใช่ไหมคะ หากชอบบทความนี้ กดโหวต 5 ดาว ให้คะแนน ด้านล่างกันด้วยนะคะ ไม่อยากพลาดความรู้ภาษาอังกฤษ กดติดตาม เอ็ด ดู เฟิร์สท์ ได้ทุกช่องทางเลยจ้า
เรียนพูดภาษาอังกฤษ ที่ไหนดี?
“พูดอังกฤษสำเนียงชัด สอนสด โดย Native Teacher”
หลักสูตรเรียนพูดภาษาอังกฤษ เอ็ด ดู เฟิร์สท์ เรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร มุ่งเน้นพัฒนาทักษะในการสื่อสารทั้งฟังและพูดเป็นพิเศษ พูดโต้ตอบทุกคาบเรียน ในบรรยากาศการเรียนการสอนที่เป็นกันเอง
โดยคุณสามารถเลือก เข้าเรียนที่สาขา หรือ เรียนออนไลน์ ได้ตามที่คุณต้องการ ลงชื่อขอคำแนะนำด้านการเรียนภาษาอังกฤษ
ชอบบทความเรียนภาษาอังกฤษของเรา
ให้คะแนน 5 ดาวเลยจ้า