IELTS, TOEFL, TOEIC สอบอะไรดี?

| บทความเรียนภาษาอังกฤษ › เตรียมสอบ IELTS › สอบภาษาอังกฤษ ที่ไหนดี ?
IELTS, TOEFL, TOEIC สอบอะไรดี?
การสอบ IELTS, TOEFL, TOEIC แตกต่างกันอย่างไร?
ทำไมต้องเรียนภาษาอังกฤษ?
“เรียนภาษาอังกฤษ เพื่ออะไร?” หลายคนคงเกิดความสงสัยกับคำถามนี้ และนี่เป็นบททดสอบอย่างหนึ่ง ด้วยการสอบวัดระดับความรู้ทางภาษาอังกฤษ แล้วเราควรเลือกสอบอะไรดี … IELTS, TOEFL, TOEIC การสอบ 3 แบบนี้ แตกต่างกันตรงไหน
การสอบ IELTS, TOEFL, TOEIC คือ การสอบวัดระดับทางภาษาอังกฤษ ที่เป็นมาตรฐานของสถาบันการศึกษาของโลก ตลอดจนองค์กรและบริษัท ที่ยอมรับผลการทดสอบภาษาอังกฤษ ใน 3 รูปแบบนี้ เราลองมาดูความแตกต่าง ระหว่าง IELTS, TOEFL, TOEIC สามารถนำไปใช้อะไรได้บ้าง
IELTS
IELTS คืออะไร? สอบ IELTS ทำไม? สอบ IELTS เพื่ออะไร? อธิบายได้ดังนี้
IELTS คืออะไร?
สอบไอเอล (IELTS) International English Language Testing System เป็นการร่วมมือระหว่าง The University of Cambridge ESOL Examinations , British Council และ IDP : IELTS Australia เป็นการสอบวัดระดับวัดผลทางภาษาอังกฤษในการศึกษา เชิงวิชาการระดับนานาชาติ ที่ตรงตามมาตรฐานสากล โดยครอบคลุมทักษะภาษาอังกฤษ 4 ทักษะ คือ การฟัง การพูด การอ่าน และเขียน
คะแนน IELTS ใช้ทำอะไร?
ภายหลังการสอบเสร็จ เราสามารถนำผลคะแนนสอบไปใช้ประกอบ ในการศึกษาต่อต่างประเทศ เช่น การไปเรียนต่อในประเทศอังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา ทั้งระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก นอกจากนี้ยังใช้เพื่อการฝึกอบรมและทำงานที่ต่างประเทศได้อีกด้วย ผลคะแนนสอบไอเอล จะประกาศลงในใบผลการสอบอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะรายงานถึงผลการสอบรวม และทักษะต่างๆ คือ Listening, Speaking, Reading และ Writing โดยผลคะแนนจะแบ่งเป็น 9 ระดับ คือ IELTS 9-band scale
และตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2561 ได้มีการเริ่ม การสอบ IELTS ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ แห่งแรกในเอเชียและเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ของการสอบ IELTS ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ที่ IDP Thailand โดยความพิเศษของการสอบ IELTS ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ สอบเสร็จภายในวันเดียว รู้ผลสอบ IELTS รวดเร็ว ภายใน 5-7 วัน
TOEFL
TOEFL คืออะไร? การสอบ TOEFL สอบอะไร? สอบ TOEFL เพื่ออะไร? อธิบายได้ดังนี้
TOEFL คืออะไร?
สอบโทเฟล (TOEFL) Test of English as a Foreign Language คือ การสอบวัดผลภาษาอังกฤษตามมาตรฐานภาษาอังกฤษแบบอเมริกา ซึ่งออกแบบมาเพื่อประเมินความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ของคนไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ซึ่งถือว่าเป็นการสอบวัดระดับทางภาษาที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมากที่สุดในโลก
โดยผลคะแนน TOEFL จะสามารถบอกถึงความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของแต่ละคน ซึ่งจะใช้เป็นหลักเกณฑ์เมื่อต้องการไปศึกษาต่อในสถาบันต่างประเทศ เช่น อเมริกา อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นต้น
TOEFL คือการสอบอะไร?
ข้อสอบโทเฟล จะแบ่งเป็น 2 แบบคือ
- TOEFL iBT (Internet-based Format หรือการสอบผ่านอินเตอร์เน็ต)
- TOEFL PBT (Paper-based หรือการใช้กระดาษในการทำข้อสอบ)
ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยเรานั้นจะใช้การสอบแบบ TOEFL iBT นั่นเอง ในการสอบโทเฟลจะเป็นการทดสอบครบทุกด้าน คือ Listening, Speaking, Reading และ Writing โดยส่วนมากจะเป็นการวัดระดับการใช้ภาษาในชีวิตประจำวัน ในห้องเรียน หรือสถานการณ์ต่างๆ
คะแนน TOEFL ใช้ทำอะไร?
ซึ่งถือว่าคะแนน TOEFL มีผลมากในการเลือกมหาวิทยาลัย และคณะที่จะต้องการเข้าศึกษาต่อ ดังนั้นหากคะแนน TOEFL อยู่ในระดับสูง โอกาสที่จะได้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำก็มีสูงขึ้น แต่ถ้าคะแนนอยู่ในระดับต่ำลงมาเรื่อยๆ โอกาสก็จะลดน้อยลงที่จะได้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำตามลำดับ
ผลคะแนนการสอบ TOEFL ที่ดีจะอยู่ที่ประมาณ 550 คะแนน และ ผลคะแนนจะใช้ได้เป็นระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่เราสอบนั่นเอง
TOEIC
TOEIC คืออะไร? สอบ TOEIC ทำไม? สอบ TOEIC เพื่ออะไร? อธิบายได้ดังนี้
TOEIC คืออะไร?
สอบโทอิค (TOEIC) Test of English for International Communication เป็นการสอบวัดความรู้ทางภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ที่มีความต้องการสมัครงานในองค์กรนั้นๆ เพื่อการันตีว่าเราสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างดี ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลายหน่วยงานองค์กร รวมถึงบริษัทของต่างชาติที่ต้องการผลคะแนนโทอิค
เช่น บริษัททางสายการบิน ซึ่งแต่ละองค์กรก็กำหนดคะแนน TOEIC ขั้นต่ำแตกต่างกันไป แต่โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับที่ 550 – 700 คะแนน นอกจากนี้องค์กรส่วนใหญ่จะเสนอการเลื่อนตำแหน่งให้กับพนักงาน หรือขึ้นเงินเดือน แต่ต้องต้องมีผล TOEIC อยู่ที่ 500 – 600 คะแนน นั่นเอง องค์กรที่กำหนดใช้ผลคะแนนสอบ TOEIC ›
TOEIC สอบอะไร?
ซึ่งการสอบ TOEIC จะแบ่งการสอบเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ
- สอบการฟังและการอ่านภาษาอังกฤษ (Listening & Reading test)
- สอบการพูดและการเขียนภาษาอังกฤษ (Speaking & Writing test)
แต่ส่วนใหญ่แล้วเราจะนิยมไปสอบในส่วน Listening & Reading test เพราะองค์กรส่วนใหญ่จะขอผลคะแนนสอบแค่ส่วนนี้เท่านั้น โดยผลคะแนนสอบรวมจะอยู่ที่ 990 คะแนน แบ่งเป็นดังนี้
- Listening (การฟัง) 5 – 495 คะแนน
- Reading (การอ่าน) 5 – 495 คะแนน
คะแนน TOEIC ใช้ทำอะไร?
ซึ่งคะแนนสอบ TOEIC นั้นมีอายุ 2 ปี นับจากวันที่เราสอบ หลายคนคงมีคำถาม “ต้องได้คะแนนสอบ TOEIC เท่าไหร่ ถึงจะสอบผ่าน” การสอบโทอิค ไม่มีการสอบผ่านหรือสอบตก แต่คะแนนสอบ TOEIC จะเป็นตัวชี้วัดว่าเรามีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษระดับใด เพื่อการนำไปใช้ประกอบการยื่นสมัครงาน องค์กรหรือหน่วยงานนั้นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสและความก้าวหน้าในการทำงาน
ทราบอย่างนี้แล้ว น้องๆ ที่มีความตั้งใจอยากจะไปศึกษาต่อต่างประเทศ หรือเข้าทำงานทั้งในไทยและต่างประเทศ และจำเป็นต้องใช้ผลการสอบวัดระดับทางภาษา ก็คงจะตัดสินใจแล้วใช่ไหมคะว่าควรจะเลือกสอบ IELTS, TOEFL, TOEIC ดี แต่อย่างไรก็ตามก็อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปสอบกันด้วยนะคะ
เรียนภาษาอังกฤษ เตรียมสอบ ที่ไหนดี?
***เตรียมตัวก่อนสอบ IELTS, TOEFL, TOEIC หากน้องๆ คนไหนยังไม่มั่นใจในความรู้ภาษาอังกฤษของตนเอง ควรเลือกเตรียมความพร้อมโดยการ เรียนภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นวิธีที่เห็นผลอย่างรวดเร็ว เพราะมีอาจารย์ผู้สอนที่มีประสบการณ์ให้คำแนะนำและสอนเทคนิคเพื่อการเตรียมสอบโดยเฉพาะ
อยากเรียนภาษาอังกฤษ ก่อนเตรียมสอบ ที่สถาบัน “เอ็ด ดู เฟิร์สท์” ทำอย่างไร น้องๆ ที่สนใจสามารถ กรอกรายละเอียดเพื่อสอบถาม โดยจะได้รับการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่ด่วนที่สุด เพื่อแนะนำคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ ในเบื้องต้น และรับการนัดหมายในการทดสอบระดับภาษา เพื่อรู้ระดับทักษะภาษาอังกฤษของผู้เรียน (ทั้งหมดนี้บริการฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย)
ผู้เรียนจะได้คำแนะนำสำหรับ คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ สำหรับเตรียมสอบ IELTS, TOEFL, TOEIC หลักจากรู้ระดับทักษะภาษาอังกฤษของผู้เรียน เราจะให้คำแนะนำอย่างละเอียด หากผู้เรียนสนใจสามารถสมัครเรียนได้ทันที โดยเรามีช่องทางการชำระที่หลากหลาย รวมถึงการผ่อนจ่าย 0%
เรียนภาษาอังกฤษ เก่งเร็ว พร้อมสอบอย่างมั่นใจ ที่สถาบันสอนภาษา EduFirst ลงชื่อเพื่อขอคำแนะนำคอร์สเรียนเตรียมสอบ
Tags
ชอบบทความเรียนภาษาอังกฤษของเรา
ให้คะแนน 5 ดาวเลยจ้า